แน่นอนแล้วว่า ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการ (ประธานบอร์ด) บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร

ศ.พิเศษ ธงทอง เคลื่อนไหวผ่านช่องทาง เฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (17 มิ.ย. 65) ถึงการรับหน้าที่ทำงานสำคัญ ในยุคผู้ว่าฯ กทม. ที่ชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่า “ไม่บ่อยครั้งในชีวิตของคนเราที่จะมีโอกาสได้ทำงานที่ท้าทายความรู้และประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมานานปี ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะมีโอกาสทำให้เมืองของเราน่าอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน แม้จะมากน้อยเพียงใดก็ตามที และไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้ทำงานร่วมทีมกับคนที่เราเชื่อมั่นและเข้ามาด้วยวิถีประชาธิปไตย แม้รู้อยู่ว่าเป็นงานที่ทั้งยุ่งทั้งยาก กินเวลาในชีวิตวัยหลังเกษียณพอสมควร และเป็นงานที่ทำแล้วจะมีทั้งคนถูกใจและไม่ถูกใจตามวิสัยธรรมดาโลก แต่เมื่อจังหวะเวลานั้นมาถึงมือ ผมจะปล่อยผ่านไปอย่างไรได้ ลองดูสักตั้งจะเป็นไรไป”
ทั้งนี้ ศ.พิเศษ ธงทอง ยังให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งนี้มาจาก 2 ปัจจัย ปัจจัยแรก คนมาชวนน่าเลื่อมใส จากที่ได้เห็นวิธีทำงานทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง ของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ประกอบกับรู้ฝีมือกันตั้งแต่สมัยเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯ ไม่มีนอกมีในไม่มีอะไรที่ตนจะต้องลำบากใจ
ส่วนอีกปัจจัยคือ กรุงเทพธนาคม คิดว่า เป็นนิยายแห่งความคลุมเครือเรื่องหนึ่งที่ตนได้ยินมานานจากไกลๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่เราดูจากไกลๆ ภายนอกมา ถ้าเข้ามาดูในตำแหน่งใกล้ชิดมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ คนที่มาร่วมทีมกันทำงาน เชื่อว่ากรุงเทพธนาคม มีดี มีบุคลากร ศักยภาพหลายอย่าง ที่เราจะสามารถทำงานและพัฒนาเพื่อประโยชน์ร่วมกันของชาวกรุงเทพมหานครได้
สำหรับ ‘กรุงเทพธนาคม’ นั้นมีแหล่งเงินทุนรายได้ จากที่ กทม. ว่าจ้างให้ทำโครงการที่มีกว่า 20 โครงการ ด้วยวงเงินรวมกว่า 14,000 ล้านบาท โดย กทม. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกรุงเทพธนาคม คิดเป็น 99.98 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทว่าที่ผ่านมา มีหลายโครงการที่ ‘กรุงเทพธนาคม’ ทำแล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะโครงการระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพ สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งถูกจับตาจากสังคมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่าที่สุดแล้วเรื่องนี้จะถูกสางปัญหาต่างๆ ออกไปได้อย่างไร